วิธีแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ ค้าง

วิธีแก้ปัญหาคอมพิวเตอร์ ค้าง

ก่อนอื่น:

ลองรอสักครู่: บางครั้งคอมพิวเตอร์อาจค้างเพียงชั่วครู่ ลองรอสัก 5-10 นาทีเพื่อดูว่าอาการค้างจะหายไปเองหรือไม่
ลองกดปุ่ม Ctrl + Alt + Delete: ปุ่มลัดนี้จะเปิด Task Manager ขึ้นมา คุณสามารถลองปิดโปรแกรมที่ค้างอยู่โดยคลิกขวาที่ชื่อโปรแกรมแล้วเลือก “End Task”
หากรอแล้วหรือกด Ctrl + Alt + Delete แล้วไม่ work ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:

1. รีสตาร์ทคอมพิวเตอร์:

กดปุ่ม Power ค้างไว้ประมาณ 5-10 วินาทีจนกว่าคอมพิวเตอร์จะดับลง
รอสักครู่แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ใหม่อีกครั้ง
2. ปิดโปรแกรมที่ค้างอยู่:

กดปุ่ม Ctrl + Alt + Delete เพื่อเปิด Task Manager
คลิกแท็บ “Processes”
ค้นหาโปรแกรมที่ค้างอยู่ (โปรแกรมที่ค้างจะแสดงสถานะ “Not Responding”)
คลิกขวาที่ชื่อโปรแกรมแล้วเลือก “End Task”
3. อัปเดตไดรเวอร์:

ไดรเวอร์ที่เก่าหรือเสียหายอาจทำให้คอมพิวเตอร์ค้างได้
อัปเดตไดรเวอร์ทั้งหมดโดยใช้ Windows Update หรือดาวน์โหลดไดรเวอร์เวอร์ชันล่าสุดจากเว็บไซต์ของผู้ผลิต
4. สแกนหาและลบไวรัส:

ไวรัสอาจทำให้คอมพิวเตอร์ค้างได้
สแกนหาและลบไวรัสโดยใช้โปรแกรม antivirus
5. ตรวจสอบฮาร์ดแวร์:

ฮาร์ดแวร์ที่เสียหายอาจทำให้คอมพิวเตอร์ค้างได้
ตรวจสอบฮาร์ดแวร์โดยใช้เครื่องมือ diagnostics
6. รีเซ็ตคอมพิวเตอร์:

หากวิธีอื่นๆ ไม่ work ลองรีเซ็ตคอมพิวเตอร์
การรีเซ็ตคอมพิวเตอร์จะลบข้อมูลทั้งหมดบนคอมพิวเตอร์ของคุณ ดังนั้นโปรดสำรองข้อมูลก่อนทำการรีเซ็ต
7. ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญ:

หากคุณลองทำทุกวิธีแล้วแต่คอมพิวเตอร์ยังค้างอยู่ ให้ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอความช่วยเหลือ